| | วันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมศักดิ์ วงศ์ยืน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญา ซึ่งเคยเป็นองค์คณะเจ้าของสำนวนคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฟ้องนายจตุพร ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 โดยวันนี้นายจตุพรมอบอำนาจให้นายคารม พลทะกลาง ทนายความ ฟังคำสั่งแทน ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์คำฟ้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า ที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยวินิจฉัยไม่รับบัญชีพยานคดีที่โจทก์ถูกยื่นฟ้อง นั้น หากโจทก์เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งการที่จำเลยวินิจฉัยเกี่ยวกับบัญชีพยานนั้นเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย แล้ว โดยไม่ปรากฏว่ามีมูลเหตุจูงใจ หรือเจตนาพิเศษเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นไปตามหน้าที่ไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ส่วนที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยกระทำผิดมาตรา 200 นั้น เห็นว่าบทบัญญัติของกฎหมายระบุถึงการกระทำผิดของผู้ที่เป็นเจ้าพนักงานใน ตำแหน่งอัยการผู้ว่าคดีพนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามกฎหมายอาญาเท่านั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดพิพากษายกฟ้อง ภายหลังนายคารมกล่าวว่า นายจตุพรจะยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่ ต้องรอแจ้งผลคำสั่ง อย่างไรก็ดี คดีที่นายจตุพรถูกนายอภิสิทธิ์ยื่นฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นมีถึง 4 สำนวน ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาเดิมได้ถอนตัวไปแล้ว ขณะที่นายจตุพรได้แถลงเพิ่มบัญชีพยานต่อองค์คณะใหม่แล้วเช่นกัน “ในฐานะทนายความของคนเสื้อแดง เห็นว่าศาลยังคงเป็นหลักในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการที่จำเลยต้องมาฟ้องคดีกับศาลก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น และที่นายจตุพรมาฟ้องก็ไม่ได้มุ่งหวังให้เปลี่ยนองค์คณะ แต่ที่ดำเนินการไปเพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม” นายคารมระบุ |
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น