ตัวอย่าง สัญญาการเช่าห้องพัก สัญญาให้บริการและเช่าสิ่งของ
สัญญาการเช่าห้องพัก
เขียนที่ ________________
วันที่____ เดือน__________ พ.ศ._____
ข้าพเจ้า _______________________ อยู่บ้านเลขที่ _______ ซอย_______
ถนน_______ แขวง/ตำบล_______ เขต/อำเภอ_______ จังหวัด______________
เลขประจำตัวประชาชน___________________ ซึ่งต่อไปจะเรียกว่าผู้ให้เช่า ได้ตกลง
สัญญากับ นาย/นาง/นางสาว _______________________ อยู่บ้านเลขที่ _______
ซอย_______ ถนน_______ แขวง/ตำบล_______ เขต/อำเภอ_______
จังหวัด______________ เลขประจำตัวประชาชน______________ ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า
ผู้เช่า ดังนี้
ผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่า เช่าห้องหมายเลข_______ ของ(หรือ) อาคาร_______ ตั้งอยู่
เลขที่_______ ซอย_______ ถนน_______ แขวง/ตำบล_______ เขต/
อำเภอ_______ จังหวัด______________ ซึ่งเป็นของผู้ให้เช่า เป็นระยะเวลา _______
เดือน _______ปี โดยผู้ให้เช่าคิดราคาค่าเช่าพื้นที่ห้อง/อาคาร จากผู้เช่า ในราคา _______ บาท
ต่อเดือน
ผู้เช่าตกลงที่จะชำระเงินค่าเช่าจำนวนดังกล่าวทุกเดือน โดยตกลงชำระให้กับผู้ให้เช่าก่อนวันที่ ๕
ของทุกเดือน หากผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าหรือปฏิบัติตามสัญญา ผู้ให้เช่ายกเลิกสัญญาเช่านี้ได้ทันที
พร้อมขับไล่ผู้เช่าได้โดยผู้เช่าต้องขนย้ายออกไปทันที
__________________
( )
ผู้ให้เช่า
__________________
( )
ผู้เช่า
__________________
( )
พยาน
__________________
( )
พยาน
****************************************************
สัญญาให้บริการและเช่าสิ่งของ
เขียนที่ ________________
วันที่____ เดือน__________ พ.ศ._____
ข้าพเจ้า _______________________ อยู่บ้านเลขที่ _______ ซอย_______
ถนน_______ แขวง/ตำบล_______ เขต/อำเภอ_______ จังหวัด______________
เลขประจำตัวประชาชน___________________ ซึ่งต่อไปจะเรียกว่าผู้ให้เช่า ได้ตกลง
สัญญากับ นาย/นาง/นางสาว _______________________ อยู่บ้านเลขที่ _______
ซอย_______ ถนน_______ แขวง/ตำบล_______ เขต/อำเภอ_______
จังหวัด______________ เลขประจำตัวประชาชน______________ ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า
ผู้เช่า ดังนี้
ผู้ให้เช่าตกลงให้บริการในการดูแลพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร ทำความสะอาด จัดยาม และไฟแสง
สว่าง รวมทั้งให้ผู้เช่า เช่า_______ (รายการเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์) ________________
เป็นระยะเวลา _______ เดือน _______ปี โดยผู้เช่าได้ตกลงกับ
ผู้ให้เช่าว่าจะรับบริการและจะเช่าสิ่งของดังกล่าวสำหรับการเช่าห้องในอาคาร_______ ตั้งอยู่
เลขที่_______ ซอย_______ ถนน_______ แขวง/ตำบล_______ เขต/
อำเภอ_______ จังหวัด______________ โดยผู้ให้เช่าตกลงคิดค่าบริการและค่าเช่าสิ่งของ
รวมทั้งค่าบริการส่วนกลาง จากผู้เช่า ในราคา _______ บาทต่อเดือน หากผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า
หรือปฏิบัติตามสัญญา ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญานี้ได้ทันที พร้อมกับเข้าครอบครองสิ่งของที่ให้เช่าได้ทันที
ผู้เช่าตกลงที่จะชำระเงินค่าเช่าจำนวนดังกล่าวทุกเดือน โดยตกลงชำระให้กับผู้ให้เช่าก่อนวันที่ ๕ของทุกเดือน
__________________
( )
ผู้ให้เช่า
__________________
( )
ผู้เช่า
__________________
( )
พยาน
__________________
( )
พยาน
หมายเหตุ หากไม่มีการเช่าสิ่งของ มีแต่การให้บริการ ก็ขีดฆ่าส่วนที่เป็นการเช่าสิ่งของออก
สัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัย
สัญญาเลขที่
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ.....................................................................................................................
ตำบล/แขวง...............................อำเภอ/เขต...........................จังหวัด.......................เมื่อวันที่...............................เดือน.....................พ.ศ................ระหว่าง...................................................โดย....................................................ตำแหน่ง..........................................ได้รับมอบอำนาจจาก............................................ต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า“ผู้ว่าจ้าง”ฝ่ายหนึ่งกับ...........................................อยู่บ้านเลขที่...............หมู่..............ถนน................................ตำบล/แขวง.......................อำเภอ/เขต..........................จังหวัด...............................ผู้ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่........................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง”อีกฝ่ายหนึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ1.ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างบริการรักษาความปลอดภัยบริเวณภายในและภายนอกของ............................................................ ตั้งอยู่เลขที่..........หมู่ที่..........ถนน.......................................
ตำบล/แขวง...............................อำเภอ/เขต................................จังหวัด..................................มีกำหนดระยะเวลา
จ้าง........ปี..........เดือนนับแต่วันที่..........เดือน.................พ.ศ.............ถึงวันที่..........เดือน.................พ.ศ.............
ตามรายละเอียดและเงื่อนไขการรักษาความปลอดภัยตามผนวก 1 แห่งสัญญานี้
ผู้ว่าจ้างตกลงเป็นผู้จัดหาเครื่องแบบให้ปีละ 2 งวด รวมทั้ง นกหวีด กระบอง ไฟฉาย หรืออุปกรณ์อื่นที่จำเป็นให้ผู้รับจ้างเพื่อใช้ในงานจ้างตามสัญญานี้
ข้อ 2 เอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
2.1 ผนวก 1 รายละเอียดและเงื่อนไขการรักษาความปลอดภัย จำนวน...........แผ่น
2.2 ผนวก 2 คุณสมบัติของผู้รับจ้าง จำนวน...........แผ่น
ความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญาที่ขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ ในกรณีที่เอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกันเองผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ โดยผู้รับจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 3 ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ตั้งแต่วันที่ได้ระบุไว้ในข้อ 1 เป็นประจำทุกวัน
ตั้งแต่เวลา 16.30 ถึง 08.30 น.
ในกรณีผู้รับจ้างไม่มาปฏิบัติงานในวันใด ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน
วันละ........................บาท(................................................)หรือหากปฏิบัติงานไม่ครบ.................(.............)ชั่วโมง
ให้หักค่าจ้างชั่วโมงละ........................บาท(.......................................................) จนถึงเวลาที่ผู้รับจ้างมาปฏิบัติ
งานตามสัญญาหรือจนถึงวันที่ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้วแต่กรณี
ข้อ 4 ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างตามสัญญา ข้อ 1 ให้แก่ผู้รับจ้างเป็นรายเดือนในอัตรา
เดือนละ......................................บาท(....................................................................) ซึ่งได้รวมภาษีอากรต่าง ๆ
และค่าใช้จ่ายทั้งปวงด้วยแล้วโดยจะชำระค่าจ้างให้ผู้รับจ้างหลังจากผู้รับจ้างได้ทำงานครบถ้วนสมบูรณ์และเสร็จเรียบร้อยในแต่ละเดือนและผู้ว่าจ้างหรือคณะกรรมการตรวจการจ้าง หรือผู้แทนของผู้ว่าจ้างได้ตรวจสอบการปฏิบัติงานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ข้อ 5 ในการปฏิบัติตามสัญญา ผู้รับจ้างรับรองว่ามีคุณสมบัติดังกำหนดไว้ตามผนวก 2
ข้อ 6 ผู้รับจ้างมีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานดังต่อไปนี้
6.1 ดูแลรักษาความปลอดภัยสำนักงานฯทั้งภายใน-ภายนอกอาคารสำนักงานและสถานที่โดยรอบ
6.2 รักษาความปลอดภัย ตรวจตราดูแลทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง
6.3 รักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันการโจรกรรมและระมัดระวังป้องกันอัคคีภัยอันจะเกิดแก่ทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง
6.4 แจ้งผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างทราบทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น
6.5 ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามสัญญาด้วยมารยาทที่สุภาพเรียบร้อย ซื่อสัตย์ สุจริต ตั้งใจและเข้มแข็ง ต้องลงเวลาไปและกลับด้วยตนเองทุกครั้งที่มาปฏิบัติหน้าที่
6.6 แต่งกายด้วยชุดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ว่าจ้างจัดให้
6.7 ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งโดยชอบของผู้ว่าจ้างหรือผู้แทนของผู้ว่าจ้างหรือคณะกรรมการตรวจการจ้างที่ใช้อยู่ในขณะทำสัญญานี้และที่จะออกใช้ในภายหน้าเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยโดยเคร่งครัด
6.8 ทำการตรวจค้นตัวบุคคลหรือยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออก บริเวณที่บริการรักษาความปลอดภัยในกรณีที่มีเหตุสงสัยตามสมควร
ข้อ 7 ถ้าผู้รับจ้างไม่มาปฏิบัติงานหรือมาปฏิบัติงานแต่ไม่ครบจำนวนเวลาที่กำหนดในสัญญาเป็นเวลา ..............................(.......................) วันติดต่อกัน ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
การที่ผู้ว่าจ้างไม่บอกเลิกสัญญาตามความในวรรคหนึ่งไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดตามสัญญานี้
ข้อ 8 ผู้รับจ้างต้องรับผิดต่อผู้ว่าจ้างดังนี้
8.1 ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง ตามสัญญานี้ผู้รับจ้างต้องชดใช้ตามมูลค่าที่เสียหายจริง
8.2 ในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่มาปฏิบัติหน้าที่หรือมาปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ครบจำนวนเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 3 โดยไม่แจ้งให้ผู้ว่าจ้างหรือคณะกรรมการตรวจการจ้างทราบล่วงหน้าหากเกิดความเสียหายใดๆขึ้นแก่ผู้ว่าจ้างอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ว่าจ้าง
8.3 ในระหว่างปฏิบัติงานถ้าผู้รับจ้างได้กระทำการใดๆอันเป็นการละเมิดต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างไม่มีส่วนผิดอยู่ด้วยผู้รับจ้างจะต้องรับผิดในบรรดาความเสียหายที่ได้กระทำขึ้นนั้นเอง
ข้อ 9 ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดต่อผู้ว่าจ้างในกรณีต่อไปนี้
9.1 ความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากเหตุสุดวิสัย ผลของสงคราม การรุกราน การกระทำของข้าศึกต่างชาติ สงครามกลางเมือง การเกิดจลาจล ภัยธรรมชาติ
9.2 ความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจาก ผู้ว่าจ้าง ลูกจ้างของผู้ว่าจ้างหรือผู้แทนผู้ว่าจ้างเป็นผู้กระทำเสียเองหรือให้ความร่วมมือกับบุคคลภายนอกในกรณีที่สามารถรู้ตัวผู้กระทำผิด
9.3 ความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากการปล้น อัคคีภัยหรือภัยต่าง ๆ ซึ่งไม่อยู่ในวิสัยจะป้องกันได้ เว้นแต่ความเสียหายนั้นเกิดขึ้น จากความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ หรือละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รับจ้าง
9.4 ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆ ที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่มิใช่คู่สัญญา เว้นแต่ทรัพย์สินส่วนตัวที่เจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างนำมาใช้ในสำนักงานของผู้ว่าจ้างเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงาน
ข้อ 10 หากผู้รับจ้างทำผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งหรือเพิกเฉยไม่มาปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างหรือคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้แทนผู้ว่าจ้าง หรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้รับจ้างจะไม่สามารถปฏิบัติงาน
ให้ต้องตามวัตถุประสงค์แห่งการจ้างตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจะบอกเลิกสัญญานี้ได้และมีสิทธิจ้าง
ผู้รับจ้างรายใหม่เข้าทำงานให้ลุล่วงไปได้ด้วย โดยผู้รับจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ จากผู้ว่าจ้าง
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังต่อไปนี้
10.1 เรียกเอาค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเพราะต้องจ้างบุคคลอื่นให้บริการดูแลและรักษาความปลอดภัยต่อไปจนครบกำหนดเวลาตามสัญญานี้
10.2 เรียกค่าเสียหายอื่นที่เกิดขึ้นจริงและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง
10.3 ริบหลักประกันสัญญาตามข้อ 12
ข้อ 11 ห้ามผู้รับจ้างเอางานทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งสัญญานี้ไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง
ข้อ 12 ในวันทำสัญญานี้ผู้รับจ้างได้นำหลักประกันเป็นจำนวนเงิน.........................................บาท(.......................................................................) มามอบให้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและเป็นหลักประกันความเสียหายทั้งปวง ตามสัญญานี้ หากจำนวนเงินในหลักประกันถูกหักลดน้อยลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้รับจ้างจะนำมามอบเพิ่มเติมให้จนครบจำนวนภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง
หลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบไว้ตามวรรคหนึ่งผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้างพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญานี้แล้ว
สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับมีข้อความอย่างเดียวกัน คู่สัญญาได้อ่านข้อความเข้าใจโดยตลอดแล้ว
จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และได้เก็บสัญญานี้ไว้ฝ่ายละฉบับ
สัญญาจ้างทำความสะอาดอาคาร
สัญญาเลขที่……………………….
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ ………………………………..………………….……………..…………ตำบล/แขวง………………………….อำเภอ/เขต……………………….จังหวัด…………………………….เมื่อวันที่ ………..เดือน ……………….. พ.ศ………………ระหว่าง…………………..……………………. โดย ………………………………………………….. ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง กับ ……………………………………………. ………ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ ………….………… ………………………..…………มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่….……. ถนน…………….…………..………ตำบล/แขวง………………………….อำเภอ/เขต……………………….จังหวัด……………………………. โดย ………………………………………………… ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ปรากฏตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท……………….…….……….. ลงวันที่ ……เดือน……………พ.ศ……… แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาได้ตกลงกันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างผู้รับจ้างให้ทำความสะอาดอาคารของ…………………………………... ตำบล/แขวง……………………อำเภอ/เขต………………………จังหวัด……………………. โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 9 และผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาทุกประการ มีกำหนดเวลา……..….เดือน นับตั้งแต่วันที่…..…..เดือน………..…………พ.ศ…..……….. ถึงวันที่……..เดือน…………………พ.ศ…………….. เป็นราคาค่าจ้างทั้งสิ้น……………………บาท (……………………………………..)
ข้อ 2. ผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำการตามสัญญาข้อ 1. โดยต้องจัดหาพนักงานที่มีความประพฤติดี มีความสามารถปฏิบัติงานด้วยความเรียบร้อย ใช้วัสดุ เครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ทำความสะอาดชนิดดี โดยผู้รับจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น เพื่อประกอบการรับจ้างตามสัญญานี้ด้วยความประณีตเรียบร้อยจนสิ้นอายุสัญญา ยกเว้นน้ำและไฟฟ้า ซึ่งผู้ว่าจ้างยินยอมให้ใช้พอสมควรแก่การปฏิบัติงานตามสัญญาข้อ 1. รวมทั้งสถานที่เก็บเครื่องมือ เครื่องใช้และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำความสะอาด ซึ่งผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดหาให้ แต่ผู้รับจ้างต้องจัดกุญแจ และต้องรับผิดชอบเครื่องมือ เครื่องใช้และวัสดุอุปกรณ์ที่นำไปเก็บไว้ในสถานที่ดังกล่าวด้วยตนเอง
ข้อ 3. ในวันทำสัญญานี้ผู้รับจ้างได้นำหลักประกันเป็น………………………….………….. เป็นจำนวนร้อยละ…………ของราคาค่าจ้าง เป็นเงินจำนวน……………….บาท (…………………………) มามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นประกันความรับผิดในการปฏิบัติตามสัญญา โดยมีอายุการประกันตลอดไปจนกว่าผู้รับจ้างจะหลุดพ้นจากหน้าที่และความรับผิดตามสัญญานี้ และหากจำนวนเงินในหลักประกันถูกหักลดน้อยลงเพราะผู้รับจ้างต้องรับผิดชำระค่าปรับหรือค่าเสียหาย เนื่องจากการปฏิบัติผิดสัญญานี้ไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะนำมาเพิ่มเติมให้ครบจำนวนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง
หลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบไว้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดและข้อผูกพันตามสัญญาแล้วทุกประการ
ข้อ 4. ผู้ว่าจ้างตกลงชำระค่าจ้างเป็นงวด งวดละหนึ่งเดือน รวมทั้งหมด……….งวด ในอัตรางวดละ………………..บาท (…………………………………….) โดยผู้ว่าจ้างจะชำระค่าจ้างให้ผู้รับจ้างหลังจากผู้รับจ้างได้ทำงานเสร็จเรียบร้อย และผู้ว่าจ้างหรือผู้แทนของผู้ว่าจ้างได้ตรวจรับมอบงานที่ส่งมอบในแต่ละงวดเรียบร้อยแล้ว
การจ่ายเงินตามเงื่อนไขแห่งสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้รับจ้าง ชื่อธนาคาร………………………..…….สาขา………………………….ชื่อบัญชี………...……….………… และเลขที่บัญชี………………………..…………. ทั้งนี้ ผู้รับจ้างตกลงเป็นผู้รับภาระเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่นใดเกี่ยวกับการโอนเงินที่ธนาคารเรียกเก็บ และยินยอมให้มีการหักเงินดังกล่าวจากจำนวนเงินโอนในงวดนั้นๆ
ข้อ 5. ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะเริ่มลงมือทำงานจ้างตามสัญญาข้อ 1. ณ…………………………… ตำบล/แขวง………………………..อำเภอ/เขต……………………………จังหวัด…………………….… ตั้งแต่วันที่………………………เป็นต้นไป และสิ้นสุดในวันที่…………………………. โดยผู้รับจ้างจะส่งพนักงานตามรายชื่อที่แจ้งให้ทราบล่วงหน้ามาทำความสะอาดและปฏิบัติงานตามรายการละเอียดและเงื่อนไขตามเอกสารแนบท้ายสัญญานี้
ข้อความนี้ให้ใส่ไว้ในสัญญาจ้าง กรณีการทำสัญญาที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000,000.- บาท ขึ้นไป (วงเงินรวมตามสัญญาตั้งแต่ 1,000,000.- บาทขึ้นไป ) และมีการเบิกจ่ายเงินทางท้องถิ่น เพื่อให้เป็นไปตามหนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0518.1/ว 48 ลว. 23 เมษายน 2545 และกรมฯ อนุมัติให้เพิ่มเติมข้อความดังกล่าวไว้ในสัญญาแล้วเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2545
กำหนดเวลาทำงานให้เป็นไปตามที่ระบุในรายละเอียดที่แนบท้ายสัญญานี้ ส่วนการทำความสะอาดเป็นรายเดือน ให้นับระยะเวลาแรกตั้งแต่วันที่กำหนดให้เริ่มลงมือทำงานดังกล่าวเป็นต้นไป และให้นับระยะเวลาต่อ ๆ ไปตั้งแต่วันต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาก่อนนั้น โดยให้นับวันหยุดทำการและวันหยุดประจำสัปดาห์รวมด้วย
ข้อ 6. ในกรณีพนักงานของผู้รับจ้างไม่มาปฏิบัติงานหรือมาปฏิบัติงานไม่ครบจำนวนตามที่กำหนดไว้ในรายละเอียดแนบท้ายสัญญา ทั้งสองฝ่ายตกลงให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
6.1 ถ้าไม่มีพนักงานของผู้รับจ้างมาปฏิบัติงานหรือมาปฏิบัติงานไม่ครบจำนวนในวันใด ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินค่าจ้างที่จะได้รับตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำต่อคนต่อวันที่ใช้บังคับในเขตจังหวัด……………..… ในวันนั้น และยินยอมให้ผู้ว่าจ้างปรับเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ ……… ของราคาที่ตกลงจ้างทั้งหมดตามสัญญานี้ แต่ไม่ต่ำกว่าวันละ ………. บาท (…………………..) นับตั้งแต่วันที่ไม่มีพนักงานมาปฏิบัติงาน หรือมาปฏิบัติงานไม่ครบจำนวนเป็นต้นไป จนกว่าจะมีพนักงานมาปฏิบัติงานครบจำนวน
6.2 ถ้าไม่มีพนักงานของผู้รับจ้างมาปฏิบัติงาน หรือมาแต่ไม่ปฏิบัติงานสามวันติดต่อกัน นอกจากผู้รับจ้างจะต้องรับผิดตามข้อ 6.1 แล้ว เมื่อผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้ผู้รับจ้างทราบแล้ว ผู้รับจ้างยังไม่ดำเนินการแก้ไข หรือจัดส่งพนักงานมาปฏิบัติงานให้ครบตามสัญญาภายใน…………วัน ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
การที่ผู้ว่าจ้างไม่บอกเลิกสัญญาตามความในข้อ 6.2 นั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดตามสัญญานี้
ข้อ 7. ในการทำงานจ้าง ถ้าเกิดความเสียหายใดๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นแก่บุคลากรของผู้ว่าจ้าง หรือบุคคลภายนอก หรือเกิดความชำรุดบกพร่องเสียหายหรือการสูญหายแก่ทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างหรือของบุคลากรของผู้ว่าจ้าง หรือของบุคคลภายนอก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำหรือละเว้นการกระทำของผู้รับจ้างพนักงานหรือบุคลากรของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ว่าจ้างหรือบุคลากรของผู้ว่าจ้าง หรือบุคคลภายนอก ตามจำนวนที่เสียหายจริง ภายในระยะเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนด
ข้อ 8. ในกรณีที่ตัวผู้รับจ้างเองหรือพนักงานของผู้รับจ้างทำงานจ้างบกพร่องโดยทำไว้ไม่สะอาดก็ดี ไม่เรียบร้อยก็ดี ใช้วัสดุอุปกรณ์หรือน้ำยาที่ไม่มีคุณภาพตามมาตรฐานหรือคุณภาพไม่ดี หรือทำไม่ถูกต้องตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดก็ดี เมื่อผู้ว่าจ้างแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องรีบแก้ไขงานที่บกพร่องให้เรียบร้อยโดยเร็ว โดยไม่คิดค่าจ้าง ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าแรงงานหรือค่าใช้จ่ายอื่นใดจากผู้ว่าจ้างอีก ถ้าผู้รับจ้างไม่รีบดำเนินการแก้ไข หรือไม่ปฏิบัติภายใน………….วัน ตามที่ผู้ว่าจ้างหรือผู้แทนของผู้ว่าจ้างแจ้งให้ทราบ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายจากผู้รับจ้างทั้งหมดโดยสิ้นเชิง
ในกรณีที่ผู้รับจ้างกระทำผิดสัญญาดังกล่าวข้างต้น และผู้ว่าจ้างยังไม่ใช้สิทธิบอกเลิก ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังนี้
1. ระงับการจ่ายค่าจ้างทั้งหมดหรือบางส่วนตามที่ผู้ว่าจ้างเห็นสมควร
2. ยอมให้ผู้ว่าจ้างปรับเป็นรายวันในอัตราวันละ…………บาท (……………………) นับแต่วันที่ผู้รับจ้างผิดสัญญาจนถึงวันที่ผู้รับจ้างได้แก้ไขงานที่บกพร่องให้เรียบร้อยตามสัญญา หรือวันที่บอกเลิกสัญญาในเมื่อผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
3. ให้บุคคลอื่นทำงานแทนผู้รับจ้างโดยผู้รับจ้างต้องรับผิดในค่าใช้จ่ายที่ผู้ว่าจ้างต้องเสียไปทั้งหมดโดยสิ้นเชิง
4. เรียกค่าเสียหายใดๆ อันพึงมี
ผู้ว่าจ้างมีสิทธิหักเงินค่าจ้างที่ยังไม่ได้จ่ายแก่ผู้รับจ้างไว้เพื่อชำระค่าปรับ หรือค่าเสียหายที่ผู้รับจ้างต้องรับผิดตามสัญญานี้ แต่ถ้าจำนวนเงินค่าจ้างไม่เพียงพอให้หักชำระหนี้ ผู้รับจ้างยินยอมให้หักจากหลักประกันสัญญาได้ทันทีอีกด้วย
ผู้รับจ้างต้องควบคุมดูแลให้พนักงานของผู้รับจ้างปฏิบัติงานให้สะอาดเรียบร้อยตามสัญญาตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานตามสัญญา หากปรากฏว่าพนักงานของผู้รับจ้างปฏิบัติงานไม่เรียบร้อย มีความประพฤติไม่เหมาะสม ผู้รับจ้างยินยอมเปลี่ยนพนักงานให้ใหม่ หรือแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องของการปฏิบัติงานจ้างตามที่ผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้ทราบภายใน……………วัน
ผู้รับจ้างต้องแจ้งรายชื่อ ที่อยู่ปัจจุบัน และภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ควบคุมงานและพนักงานที่มาทำงานจ้างทั้งหมดทุกคนตามสัญญาให้ผู้ว่าจ้างทราบในวันทำสัญญานี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบก่อนมาทำงานทุกครั้งและในระหว่างที่ปฏิบัติงานจะต้องติดป้ายชื่อตามที่ผู้ว่าจ้างออกให้
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้ผู้รับจ้างเปลี่ยนตัวพนักงานหรือเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ น้ำยา เครื่องมือเครื่องใช้ ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามโดยไม่ทักท้วงใดๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 9. สัญญานี้มีเอกสารแสดงรายละเอียดประกอบสัญญา ซึ่งให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา ดังนี้
9.1 รายละเอียดแนบท้ายสัญญาว่าจ้างทำความสะอาดอาคาร…………………………… จำนวน………..หน้า
9.2 ………………………………………………………………………………………
9.3 ………………………………………………………………………………………
ในกรณีที่ข้อความในเอกสารแสดงรายละเอียดประกอบสัญญาขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ
ถ้าสิ่งใดหรือการอันหนึ่งอันใดที่มิได้ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายสัญญานี้ แต่เป็นการอันจำเป็นต้องทำ เพื่อให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ถูกต้องตามวัตถุประสงค์แห่งสัญญานี้ ผู้รับจ้างต้องจัดทำการนั้นๆ ให้โดยไม่คิดเอาค่าตอบแทนเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด
ข้อ 10. ผู้รับจ้างจะเอางานทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งสัญญานี้ไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงทำโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างไม่ได้ ในกรณีผู้รับจ้างได้รับอนุญาตดังกล่าว ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดชอบงานที่ได้จ้างช่วงไปนั้นทุกประการ
ผู้รับจ้างจะโอนผลประโยชน์หรือสิทธิเรียกร้องทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดตามสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นโดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างก่อนมิได้
ข้อ 11. ผู้รับจ้างต้องจัดให้มีผู้ควบคุมงาน…………คน เพื่อควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามสัญญานี้ และเพื่อเป็นตัวแทนในการประสานงานกับผู้ว่าจ้าง คำสั่งใดๆ หรือหนังสือแจ้งเรื่องใดๆ อันเกี่ยวข้องกับสัญญานี้ที่ผู้ว่าจ้างได้แจ้งแก่ผู้ควบคุมงานนั้นให้ถือว่าได้แจ้งแก่ผู้รับจ้างแล้วโดยชอบ
ข้อ 12. ในกรณีที่ผู้รับจ้างตั้งตัวแทนไปควบคุมงานตามข้อ 11. ถ้าผู้ว่าจ้างขอให้เปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงานใหม่ ผู้รับจ้างยินยอมเปลี่ยนตัวให้ทันที โดยจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากผู้ว่าจ้าง ถ้าผู้รับจ้างจะเปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงาน ต้องแจ้งชื่อผู้นั้นให้ผู้ว่าจ้างทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือทุกครั้งด้วย
ในกรณีที่เกิดปัญหาแรงงานของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างจะยกเหตุที่มีปัญหาแรงงานมาเป็นเหตุสุดวิสัยหรือมาเป็นข้ออ้างที่จะเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดมิได้
ข้อ 13. ถ้าผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานไว้ประจำ ณ ที่ทำการจ้างนี้ในเวลาที่ผู้รับจ้างเตรียมการหรือกำลังทำงานจ้างนี้อยู่ก็ดี กรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานมีสิทธิจะเข้าไปตรวจงานได้ทุกเวลา ผู้รับจ้างหรือผู้แทนของผู้รับจ้างต้องให้ความสะดวกและช่วยเหลือตามสมควร
การที่มีคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้างหาทำให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดไม่
ข้อ 14. ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะทำการแก้ไขเพิ่มเติมหรือลดงานจากรายละเอียดแนบท้ายสัญญาได้ทุกกรณีโดยไม่ต้องเลิกสัญญานี้ การเพิ่มหรือลดงานต้องทำความตกลงกันใหม่เป็นหนังสือ และถ้าจะต้องเพิ่มหรือลดเงินหรือยืดเวลาออกไปอีก ก็จะได้ตกลงกัน ณ บัดนั้น
ข้อ 15. ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา เพราะเหตุที่ผู้รับจ้างผิดสัญญาตามความในสัญญาข้อ 6.2 หรือข้อ 8. แห่งสัญญานี้ ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างริบหลักประกันสัญญาตามสัญญาข้อ 3. ทั้งหมด และผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะจ้างผู้อื่นทำงานต่อไปได้ โดยผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกเอาค่าจ้างส่วนที่เพิ่มขึ้นเพราะการจ้างบุคคลอื่นทำการนี้ต่อไปจนงานแล้วเสร็จบริบูรณ์จากผู้รับจ้าง นอกจากนั้น ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกค่าเสียหายประการอื่นใดอันพึงมีขึ้นจากการผิดสัญญาของผู้รับจ้างได้อีกด้วย
ข้อ 16. ในกรณีที่ครบกำหนดสัญญาจ้างนี้แล้ว หากผู้ว่าจ้างมีความจำเป็นต้องจ้างผู้รับจ้างให้ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างต่อไป ผู้รับจ้างยินดีปฏิบัติตามสัญญาจ้างต่อไปอีกมีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน ในอัตราค่าจ้างและเงื่อนไขเดิม โดยผู้ว่าจ้างจะต้องแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ก่อนครบกำหนดสัญญา
ข้อ 17. ผู้ว่าจ้างหรือกรรมการตรวจการจ้าง หรือผู้ควบคุมงานมีสิทธิตรวจและควบคุมงานให้เป็นไปตามที่ระบุในสัญญาและรายละเอียดที่แนบท้ายสัญญาโดยมีสิทธิสั่งการใดๆ เกี่ยวกับงานที่จ้างนี้ได้ และผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้นทุกประการ
ข้อ 18. การวินิจฉัยว่าผลงานที่ผู้รับจ้างทำนั้นเสร็จเรียบร้อย ถูกต้องตามสัญญาหรือตามความประสงค์ของผู้ว่าจ้างหรือไม่ก็ดี อย่างไรเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่ เหตุใดๆ อันเนื่องมาจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้าง หรือพฤติการณ์อันใดที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายก็ดี ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตีความสัญญานี้หรือเกี่ยวด้วยเรื่องใดๆ ที่เกิดขึ้นตามสัญญานี้ หรือเกี่ยวพันกับสัญญานี้ไม่ว่าปัญหานั้นจะเกิดขึ้นในระหว่างดำเนินงาน หรือภายหลังจากที่ระยะเวลาการจ้างตามสัญญานี้สิ้นสุดลง หรือภายหลังจากที่ผู้รับจ้างทิ้งงานก็ดี ผู้รับจ้างยอมให้ถือเอาคำวินิจฉัยของผู้ว่าจ้างเป็นเด็ดขาด และผู้รับจ้างยอมผูกพันตนตามผลแห่งคำวินิจฉัยนั้นทุกประการ
สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความเป็นอย่างเดียวกัน คู่สัญญาได้อ่านเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และเก็บไว้ฝ่ายละฉบับ
ลงชื่อ……………………………………ผู้ว่าจ้าง
( ……………………………….)
ลงชื่อ……………………………………ผู้รับจ้าง
( ……………………………….)
ลงชื่อ……………………………………พยาน
( ……………………………….)
ลงชื่อ……………………………………พยาน
( ……………………………….)
รายละเอียดแนบท้ายสัญญาว่าจ้างทำความสะอาดอาคาร
อาคาร………………………………………………………………….
ก. คุณสมบัติ
1. พนักงานทำความสะอาดต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน การใช้เครื่องมือ ตลอดจนการใช้สารเคมีมาอย่างดี และได้ผ่านการสอบประวัติมาเรียบร้อยแล้ว
2. ผู้ควบคุมดูแลความเรียบร้อยและประสานงานจะต้องมีความรู้ความสามารถในการทำความสะอาดมาอย่างดี มีประสบการณ์ในการทำงานไม่น้อยกว่า 3 ปี และได้ผ่านการสอบประวัติมาเรียบร้อยแล้ว
ข. รายละเอียดพัสดุ/งานจ้าง
1. รายละเอียดพื้นที่ของอาคารโดยประมาณ
อาคาร รวมพื้นที่………………………ตารางเมตร
2. ขอบเขตของความรับผิดชอบ
2.1 ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาพนักงานมาประจำที่อาคาร จำนวน …….. คน โดยมีผู้ควบคุมดูแลความเรียบร้อยและประสานงาน จำนวน ……. คน
2.2 พนักงานของผู้รับจ้างทุกคนจะต้องสวมแบบฟอร์ม มีชื่อ เครื่องหมาย ติดอยู่อย่างชัดเจน
2.3 พนักงานของผู้รับจ้างทุกคนจะต้องอยู่ในระเบียบหรือข้อบังคับของ…………………. หากพนักงานผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือข้อบังคับ ผู้รับจ้างจะต้องเปลี่ยนตัวให้ทันที
3. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาด
ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำความสะอาดแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับวัสดุแต่ละชนิด ดังนี้
3.1 เครื่องขัดพื้นพร้อมอุปกรณ์ครบชุดสำหรับขัดพื้น ล้างและขัดคราบสกปรกบนพื้น ขัดมันพื้น
ขนาด 16 นิ้ว High Speed
ขนาด 16 นิ้ว Low Speed
ขนาด 18 นิ้ว High Speed
ขนาด 18 นิ้ว Low Speed
3.2 เครื่องดูดฝุ่นพร้อมอุปกรณ์ ซึ่งดูดได้ทั้งเปียกและแห้ง
3.3 เครื่องซักพรม พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ซึ่งทำงานด้วยระบบสเปรย์แอทแทกชั่น
3.4 เครื่องปั๊มน้ำหรือฉีดน้ำร้อน-เย็น พร้อมอุปกรณ์ครบชุดสำหรับล้างคราบสกปรกบนพื้นและฝาผนังอาคาร ซึ่งมีแรงดัน 1,000 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว
3.5 เครื่องมือเช็ดกระจกพร้อมอุปกรณ์ครบชุดสำหรับเช็ดกระจกภายใน
3.6 กระเช้าไฟฟ้าสำหรับเช็ดกระจกภายนอกอาคาร
3.7 เข็มขัดนิรภัย สำหรับเช็ดกระจกและทำความสะอาดในที่สูง
3.8 บันไดอลูมิเนียม
3.9 เครื่องมือวัดและตรวจสอบคุณภาพน้ำยาเคลือบเงาพื้น
3.10 เครื่องมืออื่นๆ เช่น ม๊อบ ดันฝุ่น ม๊อบผ้า แผ่นขัดสก๊อตไบร์ท ไม้กวาดชนิดต่างๆ ถังน้ำพลาสติก ขันน้ำพลาสติก ถุงมือยาง ผ้าเช็ดโต๊ะ ที่ตักขยะ และเครื่องมืออื่นๆ เท่าที่จำเป็น
4. น้ำยาเคมีที่ใช้ทำความสะอาด
4.1 น้ำยาล้างพื้นลอกแว็กซ์
4.2 น้ำยาล้างห้องน้ำและกัดสนิม ชนิดพิเศษไม่มีควัน ไม่มีกลิ่น
4.3 น้ำยาฆ่าเชื้อดับกลิ่น
4.4 น้ำยาทำความสะอาดทั่วไป
4.5 น้ำยาล้างและขัดอลูมิเนียม
4.6 น้ำยาเคลือบเงาพื้น (แว๊กซ์น้ำ) ชนิดซุปเปอร์
4.7 น้ำยาเช็ดกระจก
4.8 น้ำยาสระพรม
4.9 น้ำยาขจัดคราบหินปูน
4.10 สบู่เหลวล้างมือ
4.11 น้ำยาขจัดสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้ง
4.12 สเปรย์ปรับอากาศ
4.13 น้ำยาอื่นๆ เท่าที่จำเป็น
5. การทำความสะอาด
5.1 พื้นกระเบื้องยาง พื้นหินขัด
5.1.1 ปัดกวาดสิ่งสกปรกหรือดูดฝุ่นที่ว่างตามชั้นอาคาร ทางเดินเท้า ทางเดินบันได
5.1.2 ใช้น้ำยาล้างโดยใช้น้ำยาเฉพาะแต่ละประเภท โดยใช้เครื่องขัดพื้นชนิดโลสปีด
5.1.3 ม๊อบน้ำให้สะอาด 3 ครั้ง
5.1.4 ใช้เครื่องมือชนิด ไฮสปีด ปัดมันเก็บสิ่งสกปรกที่ตกค้างอีกครั้ง
5.1.5 ใช้น้ำยาเคลือบเงาพื้น (แว๊กซ์น้ำ) ชนิดซุปเปอร์ให้ 3 ครั้ง
5.2 พื้นโมเสด พื้นกระเบื้องเคลือบ
5.2.1 ปัด กวาด เช็ดม๊อบพื้น
5.2.2 เดินเครื่องขัดด้วยน้ำยาล้างพื้นโมเสดและพื้นกระเบื้องเคลือบโดยเฉพาะ
5.2.3 เก็บรอยเปื้อนตามที่เครื่องไม่สามารถทำได้ เช่น ฝาผนัง และบริเวณใกล้เคียง โดยใช้น้ำยาล้างทั่วไป
5.2.4 เดินเครื่องปัดเงาพื้น
5.3 กระจกและกรอบอลูมิเนียม มูลี่ ม่านปรับแสงและฉากกั้นห้อง
5.3.1 กระจก
5.3.1.1 ปัดกวาดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามกระจก (โดยใช้ไม้ขนไก่)
5.3.1.2 ใช้น้ำยาเช็ดกระจกทำความสะอาดด้วยเครื่องมือทันสมัย
5.3.1.3 เช็ดและขัดอลูมิเนียมตามประตูหน้าต่าง และส่วนอื่นๆ ที่ติดกับตัวอาคาร
5.3.2 มู่ลี่ ม่านปรับแสงและฉากกั้นห้อง
5.3.2.1 ปัดกวาดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามม่าน และฉากกั้นห้อง
5.3.2.2 ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดอีกครั้ง
5.4 พรม
5.4.1 ดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกในพื้นพรมให้สะอาดก่อน โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย
5.4.2 สระพรมด้วยน้ำยาสระพรมโดยเฉพาะ และฆ่าเชื้อดับกลิ่นด้วยระบบสเปรย์แอ็กแท็กชั่น ซึ่งวิธีนี้จะทำให้พรมสะอาดกว่าวิธีแชมพูอิ้งที่ทั่วๆ ไปใช้ทำอยู่
5.4.3 ครั้งสุดท้ายสระด้วยน้ำเปล่า (น้ำอุ่น) และฆ่าเชื้อดับกลิ่น และกระทำการเป่า อบ ปั่น ให้พรมแห้งและฟูขึ้นดูสวยงามเหมือนของใหม่
5.5 เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน
5.5.1 ปัดฝุ่น เช็ดคราบสกปรก (โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ตู้เอกสาร รูปภาพแขวนและปฏิมากรรม ฯลฯ)
5.5.2 ใช้น้ำยาและครีมทำความสะอาดส่วนที่เช็ดด้วยน้ำเปล่าไม่ออก
5.5.3 ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง
5.6 ห้องสุขภัณฑ์
5.6.1 ล้างพื้นด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำ
5.6.2 ขจัดสิ่งสกปรกเครื่องสุขภัณฑ์ เช่น อ่างล้างหน้า โถปัสสาวะ และโถส้วมด้วยน้ำยา
5.6.3 ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า
5.6.4 ฆ่าเชื้อดับกลิ่นด้วยน้ำยา
5.6.5 นำที่ใส่ขยะในห้องน้ำไปทิ้งในที่ที่กำหนด
5.6.6 เติมสบู่เหลวสำหรับล้างมือ
6. รายละเอียดการทำความสะอาด
6.1 การทำความสะอาดประจำวัน
6.1.1 เช็ดโต๊ะ เก้าอี้ จัดสิ่งของที่วางบนโต๊ะให้เรียบร้อย
6.1.2 เทและทำความสะอาดและล้างที่เขี่ยบุหรี่
6.1.3 เทและทำความสะอาดตะกร้าใส่ผงและล้างถังรองรับผง
6.1.4 ทำความสะอาดกระจก ขอบกระจก ขอบประตูและบานประตูทุกบาน และลบร้อยเปื้อนตามขอบประตูหน้าต่างและสวิชท์ไฟ
6.1.5 ทำความสะอาดโต๊ะรับแขก เก้าอี้และโซฟาสำหรับรับแขก
6.1.6 ทำความสะอาดโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะทุกเครื่อง เช็ดที่พูดและหูฟัง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
6.1.7 ทำความสะอาดโคมไฟบนโต๊ะ (ถ้ามี)
6.1.8 ทำความสะอาดห้องน้ำ พื้นห้องน้ำ และเครื่องสุขภัณฑ์ด้วยน้ำยาแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับวัสดุ พร้อมทั้งดับกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค ดูแลใส่กระดาษชำระ สบู่เหลวในห้องน้ำไม่ให้ขาด เช็ดรอยคราบสกปรกตามขอบประตูต่างๆ ของห้องน้ำ ด้วยน้ำยาแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับวัสดุ
6.1.9 เช็ดและทำความสะอาดขั้นบันได ตลอดจนราวบันไดขึ้น-ลงสำนักงาน เช็ดทำความสะอาดลูกกรงบันไดขึ้นสำนักงาน
6.1.10 ทำความสะอาด เทน้ำและถาดรองรับน้ำใต้กระถางต้นไม้ตามระเบียงต่างๆ
6.1.11 ทำความสะอาด เทเศษน้ำและถังรองรับน้ำจากเครื่องทำน้ำเย็น พร้อมทั้งเช็ดหรือปัดฝุ่นเครื่องทำน้ำเย็นและขวดน้ำ
6.1.12 ทำความสะอาดบานประตู ขอบประตู กระจกและขอบกระจกทางเข้าสำนักงาน
6.1.13 ทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูพื้นห้อง ทางเดิน
6.1.14 ทำความสะอาดหน้าลิฟท์ ประตูลิฟท์
6.1.15 รายงานสิ่งของชำรุดเสียหายที่เกิดขึ้นโดยด่วน เช่น กระจกแตก อ่างล้างหน้าชำรุด และสิ่งอื่นๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ
6.1.16 ดูแลปิดน้ำ ปิดไฟฟ้า ปิดเครื่องปรับอากาศ พัดลม ระบายอากาศ และตรวจตราความเรียบร้อยก่อนออกจากตัวอาคารเมื่อเสร็จงาน
6.1.17 ดูแลไม้ประดับภายในห้องและให้มีการสับเปลี่ยนต้นไม้อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ดูสวยงาม
6.1.18 ทำความสะอาดชั้นวางหนังสือ ขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ หลังโซฟา และหลังตู้เก็บเอกสาร บอร์ดปิดประกาศ
6.1.19 เช็ดฝุ่นเครื่องคิดเลข พิมพ์ดีดและทำความสะอาดโต๊ะวางพิมพ์ดีด
6.1.20 ทำความสะอาดฝ้าเพดาน ปัดหยากไย่ในที่ต่างๆ
6.1.21 เช็ดฝุ่นตามกรอบรูปตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในสำนักงาน
6.1.22 ทำความสะอาดฝาผนัง เช็ดรอยเปื้อนตามฝาผนังด้วยน้ำยา
6.1.23 ทำความสะอาดรอยเปื้อนพรมด้วยน้ำยาให้สะอาด
6.1.24 ทำความสะอาดมูลี่ ม่านปรับแสงและบานเกล็ดทุกแห่ง
6.1.25 ทำความสะอาดห้องโถงและห้องพัก และแผ่นป้ายแสดงชื่อประเภทงานต่างๆ
6.1.26 ดูแลทำความสะอาดระเบียงและดาดฟ้า
6.2 การทำความสะอาดประจำเดือน
6.2.1 เช็ดขอบประตูที่ทำด้วยไม้ อลูมิเนียมตามที่ต่างๆ ตลอดจนฝากั้นห้อง
6.2.2 เช็ดกระจกทั้งหมดทั้งในอาคารและนอกอาคาร ทั้งภายในและภายนอก
6.2.3 ขัดเงาส่วนที่เป็นโลหะทั้งหมด
6.2.4 ดูดฝุ่นผ้าม่าน หน้าต่าง และประตูทั่วๆ ไป
6.2.5 ทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ ที่บุด้วยหนังเทียมหรือหนังแท้และลงน้ำยารักษาหนังแท้หรือหนังเทียม
6.2.6 ทำความสะอาดหลอดไฟและโคมไฟแสงสว่างทั้งหมด
6.2.7 ทำความสะอาดโคมไฟภายนอกอาคาร
6.2.8 ปัดหยากไย่ในที่สูงภายนอกอาคาร
6.2.9 ล้างพื้น เคลือบเงาพื้นและขัดเงาพื้นด้วยเครื่องมือโดยใช้น้ำยาแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับวัสดุพื้น
6.3 การทำความสะอาดเป็นครั้งคราว
6.3.1 ขัดล้าง ทำความสะอาดพื้นและลงน้ำยาเคลือบเงาพื้นในส่วนที่เปื้อนหรือไม่เงางาม
6.3.2 ทำความสะอาดรอยเปื้อนบนพรม และทำการสระพรมสำหรับพรมที่สกปรกมาก
6.3.3 เช็ดทำความสะอาดกระจกทั้งภายในและภายนอกในกรณีที่เปื้อนหรือไม่ใสสะอาด
6.3.4 ทำความสะอาดคราบสกปรกที่โต๊ะ เก้าอี้
ค. ข้อกำหนดเกี่ยวกับสัญญา
- การส่งมอบพัสดุ/งานจ้าง นับแต่วันทำสัญญา และให้ส่งมอบงานทุกๆ สิ้นงวดตามสัญญาข้อ 4. โดยผู้รับจ้างต้องรายงานการทำความสะอาดประจำวัน ประจำเดือน และการทำความสะอาดเป็นครั้งคราวในเดือนนั้นๆ หรือในงวดงานนั้นๆ ให้ครบถ้วน พร้อมบัญชีรายชื่อแสดงการมาปฏิบัติงานประจำวันของพนักงาน
- ช่วงเวลาในการปฏิบัติงาน 08.00 – 17.00 น. ของทุกวันทำการ และพนักงานจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบตลอดเวลาปฏิบัติงาน ผู้ว่าจ้างสามารถที่จะเรียกไปทำความสะอาดในจุดใดจุดหนึ่งภายในบริเวณ……………………………………………. เมื่อใดก็ได้
สัญญาจ้างบำรุงรักษาลิฟท์โดยสาร
สัญญาเลขที่…………………
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ ………………………………..………………….……………..…………ตำบล/แขวง………………………….อำเภอ/เขต……………………….จังหวัด…………………………….เมื่อวันที่ ………..เดือน ……………….. พ.ศ………………ระหว่าง…………………..……………………. โดย ………………………………………………………………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง กับ …………………………………………………. …ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท……… ………..………มีสำนักงานใหญ่อยู่เลขที่….…….ถนน…………….…….…ตำบล/แขวง………………………….อำเภอ/เขต…………...………….จังหวัด……………………………. โดย ………………………………………………… ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท……………….…………………….. เลขที่ …………….……...…… ลงวันที่ …….เดือน …………….. พ.ศ…………. .และหนังสือมอบอำนาจลงวันที่……………………….. แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาได้ตกลงกันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างผู้รับจ้างให้ทำการดูแลบำรุงรักษาลิฟท์โดยสาร รุ่น…………………..หมายเลขเครื่องที่…….……………และหมายเลขเครื่องที่………………….. รวม……(…………) เครื่อง ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคาร……………………………………….……... ให้อยู่ในสภาพที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเรียบร้อยและปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เป็นเวลา………(…………) เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่………………. จนถึงวันที่……………………… ตามรายละเอียดเงื่อนไขการจ้างบำรุงรักษาลิฟท์โดยสารแนบท้ายสัญญานี้
ข้อ 2. ผู้รับจ้างตกลงรับทำการตามที่กำหนดดังกล่าวในสัญญาข้อ 1 โดยสัญญาว่าจะจัดหาสิ่งของชนิดดี ใช้เครื่องมือดี และช่างฝีมือดี มีประสบการณ์และความชำนาญ เพื่อประกอบการตามสัญญานี้จนแล้วเสร็จ
ข้อ 3. ในวันทำสัญญานี้ ผู้รับจ้างได้นำหลักประกันเป็น…………………………………….. เป็นจำนวนเงิน……………….บาท (…………………………………………………….) มามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา
หลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบไว้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้างพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญานี้แล้ว
ข้อ 4. ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับค่าจ้าง จำนวนเงิน …………………..บาท (…………………………………………..) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มตลอดจนภาษีอากรอื่นๆ และค่าใช้จ่ายทั้งปวงด้วยแล้ว โดยผู้ว่าจ้างจะชำระค่าจ้างให้ผู้รับจ้าง หลังจากผู้รับจ้างได้ทำงานเสร็จเรียบร้อยครบถ้วนตามสัญญา และเมื่อผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างตรวจว่าลิฟท์และอุปกรณ์ต่างๆ ของลิฟท์ใช้งานได้ตามปกติและปลอดภัย
* การจ่ายเงินตามเงื่อนไขแห่งสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้รับจ้าง ชื่อธนาคาร………………………………..สาขา……………………ชื่อบัญชี………………………………. และเลขที่บัญชี………………………….. ทั้งนี้ ผู้รับจ้างตกลงเป็นผู้รับภาระเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่นใดเกี่ยวกับการโอนเงินที่ธนาคารเรียกเก็บ และยินยอมให้มีการหักเงินดังกล่าวจากจำนวนเงินโอนในงวดนั้น ๆ
ข้อ 5. ผู้รับจ้างจะต้องทำการตรวจสอบบำรุงรักษาและซ่อมแซมลิฟท์ตามที่ระบุในข้อ 1 ดังต่อไปนี้
5.1 ผู้รับจ้างต้องส่งช่างที่มีฝีมือและความรู้ความชำนาญมาตรวจสอบและบำรุงรักษาลิฟท์อย่างน้อยเดือนละ……….(……………) ครั้ง ภายในกำหนดวันที่………………………ของทุกเดือน ตามรายละเอียดเงื่อนไขการจ้างบำรุงรักษาลิฟท์โดยสารที่กำหนดไว้ในผนวก ก.
5.2 ในกรณีที่ลิฟท์เกิดขัดข้องใช้งานไม่ได้ตามปกติ ผู้รับจ้างต้องส่งช่างที่มีฝือมือและความรู้ความชำนาญมาซ่อมแซมแก้ไขลิฟท์ทันทีที่ผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้ทราบโดยต้องให้บริการได้ตลอดเวลาไม่เว้นวันหยุดราชการ
5.3 ผู้รับจ้างต้องตรวจสอบบำรุงรักษาและซ่อมแซมลิฟท์และอุปกรณ์ต่างๆ ให้แล้วเสร็จใช้งานได้ดีตามปกติ ภายใน…………..(…………………) วัน นับแต่เวลาที่ผู้รับจ้างได้เริ่มทำการตรวจสอบบำรุงรักษาหรือได้รับแจ้งเหตุขัดข้องนั้นแล้วแต่กรณี หากลิฟท์พร้อมอุปกรณ์ไม่ได้รับการตรวจสอบบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายในกำหนดดังกล่าว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิปรับผู้รับจ้างเป็นรายวันในอัตราวันละ…………………..บาท (……………………………) ต่อ 1 (หนึ่ง) เครื่อง จนกว่าลิฟท์จะใช้งานได้ตามปกติและปลอดภัย
การนับระยะเวลาตามที่กำหนดในวรรคก่อนให้คำนวณนับตามปฏิทิน วันสุดท้ายตรงกับวันใด แม้จะเป็นวันหยุดทำการตามประกาศเป็นทางการ หรือตามประเพณีก็ตามให้ถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันครบระยะเวลาที่กำหนด
* ข้อความนี้ให้ใส่ไว้ในสัญญาจ้าง กรณีการทำสัญญาที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000,000.- บาท ขึ้นไป
(วงเงินรวมตามสัญญาตั้งแต่ 1,000,000.- บาทขึ้นไป) และมีการเบิกจ่ายเงินทางท้องถิ่น เพื่อให้เป็นไปตาม
หนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0518.1/ว 48 ลว. 23 เมษายน 2545 และกรมฯ อนุมัติให้เพิ่มเติมข้อความ
ดังกล่าวไว้ในสัญญาแล้วเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2545
การที่ผู้รับจ้างตรวจสอบบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมลิฟท์เกินกำหนดตามความในวรรคก่อนนี้ เนื่องจากมีการตรวจซ่อมใหญ่หรือกรณีมีความจำเป็นต้องสั่งอะไหล่หรืออุปกรณ์จากต่างประเทศ ผู้ว่าจ้างจะพิจารณาผ่อนผันระยะเวลาตรวจซ่อมให้แก่ผู้รับจ้างตามความจำเป็น โดยผู้ว่าจ้างไม่คิดค่าปรับ แต่ผู้รับจ้างจะต้องแจ้งเหตุผลและความจำเป็น รวมทั้งระยะเวลาที่จำเป็นต้องใช้ในการตรวจสอบ บำรุงรักษาหรือซ่อมแซม โดยผู้ว่าจ้างจะพิจารณาให้ตามที่เห็นสมควรเป็นคราวๆ ไป
5.4 หากผู้รับจ้างไม่ส่งช่างมาตรวจสอบบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา ในข้อ 5.1 ภายใน 2 (สอง) วัน นับแต่วันครบกำหนดดังกล่าว หรือไม่มาซ่อมแซมลิฟท์ทันทีที่ได้รับแจ้งจากผู้ว่าจ้างตามข้อ 5.2 ผู้ว่าจ้างมีสิทธิปรับผู้รับจ้างเป็นรายวันในอัตราวันละ……………..บาท (………………………………….) ต่อ 1 (หนึ่ง) เครื่อง จนกว่าผู้รับจ้างจะส่งช่างมาดำเนินการดังกล่าว
ข้อ 6. ผู้รับจ้างตกลงว่าจะไม่เอางานทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งสัญญานี้ไปให้ผู้อื่นรับ
จ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง แต่ทั้งนี้ ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดชอบงานที่ให้ช่วงไปนั้นทุกประการ
ข้อ 7. ในระหว่างอายุแห่งสัญญานี้ ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้
7.1 ความปลอดภัยในการใช้ลิฟท์ของผู้ว่าจ้าง ข้าราชการพนักงานของผู้ว่าจ้าง หรือบุคคลอื่นไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือภยันตรายใด ๆ ยกเว้นเหตุสุดวิสัย โดยผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ว่าจ้าง ข้าราชการพนักงานของผู้ว่าจ้าง หรือบุคคลอื่นจนครบถ้วน
7.2 ในกรณีที่ผู้รับจ้างหรือคนงาน หรือบริวารของผู้รับจ้างได้กระทำการโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำให้ผู้ว่าจ้าง ข้าราชการ พนักงานของผู้ว่าจ้างหรือบุคคลอื่นได้รับความเสียหายเพราะการใช้ลิฟท์ ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ว่าจ้าง ข้าราชการ พนักงานของผู้ว่าจ้าง หรือบุคคลอื่นจนครบถ้วน
7.3 ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในการทำความสะอาดและในความเสียหายของตัวอาคารหรือทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง ซึ่งมีอยู่ในบริเวณที่ทำการจ้างอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้รับจ้างหรือช่างหรือคนงานหรือบริวารของผู้รับจ้าง
7.4 ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบต่ออุปัทวเหตุหรือภยันตรายความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง ผู้แทน ช่าง หรือลูกจ้างของผู้รับจ้างไม่ว่าจะเกิดขึ้นแก่ผู้ว่าจ้าง ข้าราชการ พนักงาน หรือทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างหรือบุคคลอื่น
7.5 ผู้รับจ้างต้องทำประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อคุ้มครองบุคคลผู้ใช้ลิฟท์ โดยมีข้อกำหนดการเอาประกันภัยและจำนวนเงินซึ่งเอาประกันภัย ตามรายละเอียดเงื่อนไขการจ้างบำรุงรักษาลิฟท์โดยสารที่กำหนดไว้ในผนวก ก. ทั้งนี้ ผู้รับจ้างต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวให้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อนำมาแนบท้ายสัญญานี้ด้วย
ข้อ 8. ถ้าผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานไว้ประจำ ณ ที่ทำการจ้างนี้ ในเวลาที่ผู้รับจ้างกำลังทำงานจ้างนี้อยู่ กรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานมีสิทธิจะเข้าไปตรวจการทำงานได้ทุกเวลา ผู้รับจ้างหรือผู้แทนของผู้รับจ้างจักต้องให้ความสะดวกและช่วยเหลือตามสมควร
ข้อ 9. เมื่อปรากฏว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ส่วนหนึ่งส่วนใดเนื่องจากการสึกหรอระหว่างการใช้งาน หรือเหตุอื่นใดที่จำเป็นเพื่อรักษาลิฟท์ให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดีปลอดภัยและถาวรสืบไป ผู้รับจ้างจะต้องแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเร็ว พร้อมทั้งเสนอรายการและราคาอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อผู้ว่าจ้างพิจารณาว่าจะให้ผู้รับจ้างทำการเปลี่ยนอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์นั้นๆ หรือไม่
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างแจ้งให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ทำการเปลี่ยนอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ดังกล่าว ผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการจัดหาอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ให้แก่ผู้ว่าจ้างตามราคาที่ตกลงกัน เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะแจ้งให้ผู้รับจ้างทำการเปลี่ยนอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ โดยผู้ว่าจ้างจะจัดหาอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ให้เอง ผู้รับจ้างจะต้องนำอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ที่ผู้รับจ้างจัดหาหรือผู้ว่าจ้างจัดหาให้แล้วแต่กรณี มาทำการเปลี่ยนใหม่ทันที โดยผู้ว่าจ้างจะชำระราคาค่าอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ให้แก่ผู้รับจ้างในกรณีที่ผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ เมื่อผู้รับจ้างได้ทำการเปลี่ยนแปลงอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์ใหม่เสร็จเรียบร้อยและลิฟท์ใช้งานได้เป็นที่พอใจของผู้ว่าจ้าง และไม่ว่ากรณีจะเป็นอย่างไรก็ตามผู้รับจ้างจะคิดค่าจ้างเปลี่ยนอะไหล่ และ/หรืออุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากวงเงินค่าจ้างตามข้อ 4 มิได้
ข้อ 10. ถ้าผู้รับจ้างปฏิบัติผิดสัญญานี้ข้อหนึ่งข้อใดก็ดี หรือให้การบริการไม่รวดเร็ว ไม่เรียบร้อย ไม่ปลอดภัย ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ลิฟท์หรือเกี่ยวเนื่องกับลิฟท์ หรือในระหว่างที่มีการปรับตามข้อ 5 หากผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้ทันที โดยผู้รับจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างของงานหลังจากบอกเลิกสัญญา และถ้าเกิดความเสียหายใด ๆ ขึ้นเนื่องมาจากผู้รับจ้างผิดสัญญารวมทั้งผลโดยตรงหรือเกี่ยวเนื่องจากเหตุที่ผู้รับจ้างผิดสัญญานั้น ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามกฎหมายทั้งหมด และถ้าผู้ว่าจ้างได้แจ้งข้อเรียกร้องไปยังผู้รับจ้างเมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามข้อ 5.3 หรือ 5.4 ขอให้ชำระค่าปรับแล้ว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะปรับผู้รับจ้างจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วย
ข้อ 11. ถ้าผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว นอกจากสิทธิดังได้ระบุไว้ในข้ออื่นๆ ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังต่อไปนี้ด้วย
(1) ริบหลักประกันสัญญาดังกล่าวในสัญญาข้อ 3
(2) ยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกเอาค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเพราะจ้างบุคคลอื่นทำการนี้ต่อไปจนงานแล้วเสร็จสมบูรณ์
(3) เรียกค่าเสียหายอันพึงมีจากผู้รับจ้าง
ข้อ 12. การเข้าดำเนินการตามสัญญานี้ ผู้รับจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้างจะต้องทำการติดต่อกับหัวหน้าฝ่ายรักษาสถานที่ฯ ของผู้ว่าจ้างก่อนทุกครั้ง และเมื่อดำเนินการตามที่กล่าวเสร็จแล้วจะต้องทำหนังสือรายงานภายใน ……(…………………) วัน นับจากวันที่มาตรวจเช็คและ/หรือซ่อมบำรุงทุกครั้ง ให้หัวหน้าฝ่ายรักษาสถานที่ฯ ของผู้ว่าจ้างทราบว่าลิฟท์อยู่ในสภาพใช้การได้เป็นปกติหรือจะต้องแก้ไขหรือปรับปรุงประการใดต่อไป
ข้อ 13. ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับลิฟท์หรือส่วนประกอบและชิ้นส่วนอะไหล่ที่เกิดความเสียหายขึ้นเนื่องจากการทำงาน หรือเกิดจากการละเลยหน้าที่ของผู้รับจ้าง หรือช่างตามสัญญานี้ หรือปฏิบัติการล่าช้าเกินเหตุอันสมควร ไม่ว่าการเสียหายนั้นจะเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของผู้รับจ้างหรือช่างหรือเนื่องมาจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้างก็ตาม ให้แก่ผู้ว่าจ้างโดยสิ้นเชิง รวมทั้งค่าซ่อมแซม ค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนและอื่นๆ ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ว่าจ้างจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาหรือไม่ก็ตาม
ข้อ 14. เอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
(1) ผนวก ก. รายละเอียดเงื่อนไขการจ้างบำรุงรักษาลิฟท์โดยสาร
จำนวน…………(………………) แผ่น
(2) ผนวก ข. หนังสือห้าง/บริษัท…………………………ลงวันที่……………….. เรื่อง เสนอราคาค่าบริการดูแลรักษาลิฟท์โดยสาร…………………
จำนวน…………(………………) แผ่น
ข้อความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความเป็นอย่างเดียวกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และเก็บไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ
ลงชื่อ………………………………………ผู้ว่าจ้าง
(…………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………ผู้รับจ้าง
(…………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………พยาน
(…………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………พยาน
(…………………………………………)
(ลงชื่อ).........................................................ผู้ว่าจ้าง
(....................................................)
(ลงชื่อ).........................................................ผู้รับจ้าง
(....................................................)
(ลงชื่อ).........................................................พยาน (....................................................)
(ลงชื่อ).........................................................พยาน (....................................................)
หมายเหตุ หากไม่มีการเช่าสิ่งของ มีแต่การให้บริการ ก็ขีดฆ่าส่วนที่เป็นการเช่าสิ่งของออก
เพื่อความเป็นระเบียบและความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์ จากการใช้ที่จอดรถร่วมกัน จึงใคร่ขอความกรุณาจากท่านผู้พักอาศัย และผู้ใช้ประโยชน์แทนทุกท่านโปรดปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ ดังนี้
ที่จอดรถเปิดบริการ 24 ชั่วโมง
รถที่มีความสูงเกิน 2 เมตร ให้จอดภายนอกอาคารเท่านั้น
สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด จะออกสติ๊กเกอร์ให้ผู้พักอาศัยตามสิทธิ์ ใช้เป็นใบอนุญาตผ่าน เข้า ออกที่จอดรถยนต์ ซึ่งบนสติ๊กเกอร์นั้นจะระบุหมายเลขทะเบียนรถยนต์
ผู้พักอาศัย จะต้องแจ้งสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อลงทะเบียนรถยนต์ และต้องแจ้งให้สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุดทราบ เมื่อมีเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับยานพาหนะ และนำสติ๊กเกอร์เก่ามาแลกคืน
ห้ามเก็บวัสดุไวไฟ เปลี่ยนเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ของใช้สำหรับรถยนต์ตลอดจนภาชนะ เช่น ถังผ้าเช็ดรถ บริเวณลานจอดรถ
ห้ามส่งเสียงเอะอะบริเวณลานจอดรถ
สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นภายใน และภายนอกรถของผู้พักอาศัย เนื่องจากสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด มีหน้าที่ดูแลการจอดรถ และให้ความสะดวกแก่ท่านเท่านั้น
ห้ามล้างรถ ด้วยสายฉีดน้ำ หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความสกปรกในช่องที่จอดรถยนต์
โปรดปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในที่จอดรถ ที่คอยให้ความสะดวกแก่ทุกท่าน
ในกรณีที่ผู้พักอาศัยจอดรถซ้อนคัน ให้ใส่เกียร์ว่างและไม่ดึงเบรกมือ และต้องจอดตรงแนวที่เหมาะสม ไม่ให้รถไหล แล้วตั้งล้อให้ตรง ควรเล็งดูทิศทางของรถว่า หากถูกเข็นเดินหน้า-ถอยหลัง แล้ว รถจะเลื่อนไปในทิศทางที่ดีหรือไม่
สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด ขอสงวนสิทธิ์ในการเคลื่อนย้ายรถยนต์ใดๆ ที่จอดโดยละเมิดกฎข้างต้นได้โดยไม่ต้องเตือนล่วงหน้า และจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นได้
* หมายเหตุ ระเบียบนี้อาจปรับปรุงเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม และจะแจ้งให้ทราบโดยการปิดประกาศ
ระเบียบและวิธีการแจ้งซ่อม
เวลาให้บริการ 8.30-17.00 น. ของทุกวัน
แจ้งเหตุ/ความต้องการ การซ่อมแซม โดยโทรศัพท์ไปยังหมายเลข 076-234999 สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด โดยระบุชื่อผู้แจ้ง หมายเลขห้อง หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ระบุปัญหา และความต้องการให้แก้ไข
กรอกแบบฟอร์มการแจ้งซ่อม และการขอใช้บริการ ส่งให้ ที่สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด หรือตู้รับแจ้งเหตุงานซ่อมบำรุง บริเวณใกล้ลิฟต์โดยสารชั้น 1
ช่างประจำอาคารชุด 1 ท่าน จะไปตรวจเช็คบริเวณหน้างาน ภายใน 30 นาที หลังได้รับการแจ้ง
ในกรณีที่ลูกค้าต้องการที่จะให้ช่างประจำอาคารชุด ซ่อมแซมทรัพย์สินส่วนบุคคล สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด จะมีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากลูกค้า เป็นจำนวนเงิน 200 บาท ต่อ 1 ครั้ง ไม่รวมค่าอะไหล่ที่จะเปลี่ยน
ในกรณีที่ลูกค้าต้องการซ่อมแซมทรัพย์สินส่วนบุคคล และต้องการนำช่างจากภายนอกเข้ามาทำการซ่อมแซม ทางฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุด จะมีการส่งช่างไปควบคุม ดูแล จนกว่าจะทำการซ่อมแซมเสร็จ เพื่อความถูกต้องและปลอดภัยในทรัพย์สิน อีกทั้งจะมีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากลูกค้า เป็นจำนวนเงิน 500 บาท ต่อ 1ครั้ง
ช่างประจำอาคารชุด จะดำเนินการให้บริการซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ
ช่างประจำอาคารชุดจะจัดให้มีการสรุปผลการให้บริการ ในรายงานผลการปฏิบัติงาน รายเดือน เป็นประจำทุกเดือน
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น